งานแต่งที่มากกว่าเรื่องของคนสองคน วางแผนแต่งงานอย่างไร ให้ออกมาสวยและประทับใจแขกผู้มาร่วมงาน Villa de Bua มีคำตอบค่ะ!

ถ้าพูดถึงเรื่องการวางแผนการแต่งงาน หลายคู่คงจะกังวลใจไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน วันนี้เราชวนคุณปิ่น เจ้าสาวคนสวย มาเล่าประสบการณ์การเตรียมงานทุกขั้นตอนด้วยตัวเองมาฝากกันด้วยค่ะ เป็นงานแต่งที่ผ่านการคิดและวางแผนอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับความประทับใจและเต็มอิ่มไปกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่นตลอดทั้งงาน

สวัสดีค่ะคุณปิ่น เป็นอย่างไรบ้างคะกับการจัดงานแต่งงานที่ผ่านมา

ทุกอย่างลงตัวตามที่วางแผนเอาไว้ค่ะ ทุกคนชอบ แขกชอบ มีฟีดแบคที่ดีมากๆค่ะ

ขอเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงแรกเลยค่ะ คุณปิ่นวางแผนเรื่องการจัดงานนานไหมคะ

 ปิ่นวางแผนประมาณ 8 –  9 เดือนได้เลยค่ะ หลังจากได้ฤกษ์แล้วเราก็เริ่มมองหาสถานที่จัดงาน เริ่มหาไอเดียว่าอยากจะได้สถานที่แบบไหน ไปดูชุดแต่งงานในแบบที่เราชอบ และให้ทาง Designer ปรับให้เข้ากับ Style ของเรา โดยได้เป็นชุดตัดเช่าจากทาง Jirayu couture ค่ะ ซึ่งพอมีเวลาล่วงหน้านานหน่อย ก็จะทำให้งานค่อยเป็นค่อยไปตามแผนที่วางเอาไว้

แล้วมองหาสถานที่จัดงานแบบไหน ไปดูมาหลายที่ไหมคะ

ไปดูมาเยอะอยู่นะคะ ประมาณ 10 กว่าที่ได้ อย่างแรกเลยคือปิ่นอยากจัดงานช่วงกลางวัน เป็นงานที่สามารถออกแบบเองได้ ได้บรรยากาศอบอุ่น เพราะตั้งใจว่าจะเชิญแขกไม่เยอะ เลยอยากได้สถานที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน หรือจัดงานในสวนอะไรทำนองนั้น ซึ่งก็ไปดูมาหลายที่เหมือนกัน แม้แต่โรงแรมที่มีกลาสเฮ้าส์หรือว่าสไตล์จัดงานในสวนก็ไปดูมาหมดค่ะ แต่ก็มาลงตัวที่ วิลลา เดอ บัว รู้จักที่นี่ผ่านทาง IG แล้วจึงนัดเข้าไปชมสถานที่ค่ะ

แล้วอะไรเป็นจุดเด่นที่เลือก วิลลา เดอ บัว เป็นสถานที่จัดงานคะ

 วิลลา เดอ บัว เป็นสถานที่ที่มีความสวยลงตัว เพดานห้องจัดเลี้ยงสูง โปร่ง เห็นครั้งแรกคือใช่เลยค่ะปิ่นเชื่อว่าถ้าใครเข้ามาชมสถานที่ ต้องชอบแน่นอน เพราะตกแต่งสวยและมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีห้องจัดเลี้ยง ห้องพิธีต่างๆ นอกจากนั้นคือที่นี่เค้าค่อนข้างเลือกพาร์ทเนอร์ในแต่ละส่วนมาดีด้วยค่ะ ทีมงานรู้ว่าพาร์ทเนอร์ทีมไหนเหมาะกับคู่บ่าวสาว มาที่เดียวแล้วจบเลยค่ะ เป็น One-Stop Service ที่ทำให้เราวางแผนได้ง่ายขึ้น เพราะมีทีมงานมืออาชีพให้คำแนะนำได้ดีค่ะ

แล้วหลังจากจองสถานที่แล้ว คุณปิ่นเริ่มวางแผนจัดงานและเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ

 หลังจากได้ฤกษ์และจองสถานที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็มีการนัดพูดคุยกับทางทีมวิลลา เดอ บัว ว่ามีส่วนไหนที่ต้องเตรียมเองบ้าง ปิ่นก็จะทำเป็น Check-list เอาไว้เลยค่ะ ว่ารอบแรกที่มาคุยต้องเตรียมอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมหลังจากคุยแต่ละครั้ง มีอะไรบ้าง รอบสอง รอบสามอัพเดตเพิ่มเติมอย่างไร หรือหากมีอะไรที่ทางปิ่นต้องการสอบถามเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อกับทางทีมงาน วิลลา เดอ บัว ผ่านทางช่องทาง Line ได้ สะดวกมากๆเลยค่ะ ทุกอย่างถูกจดบันทึกเอาไว้เป็นลำดับ จะได้ไม่ลืม ตัวอย่างเช่น เรื่องงานพิธีและงานตกแต่ง, Catering, วงดนตรี, ช่างกล้องและวีดีโอ ช่างแต่งหน้าทำผม, ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว, เค้กแต่งงาน, รายชื่อแขกและผังที่นั่ง, ลำดับในงานต่างๆ เพื่อดูความคืบหน้าของงานในแต่ละครั้ง รวมถึงรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ

ส่วนธีมงานก็เริ่มจากสิ่งที่เราชอบก่อน ลองหาไอเดียและสไตล์ที่ชอบ หาโทนสี Mood และ Tone ที่เราอยากได้ หา Inspiration จากเว็บต่างๆ ดูรูปจัดงานจากใน IG  แล้วมาลิสสิ่งที่เราต้องการใส่ลงไปในงานของเรา อยากได้ตกแต่งสไตล์ไหน Backdrop เป็นรูปทรงอะไร หรือแม้แต่องค์ประกอบอื่นๆอย่าง ชุดแต่งงาน มาลัย ขันหมาก ที่เข้าธีมเดียวกัน ปิ่นก็นำภาพมาแปะจัดกลุ่มให้ได้เป็น Over all โดยรวมของงาน จะได้เห็นภาพไปในทิศทางเดียวกันทุกฝ่าย

ส่วนเรื่องตกแต่งสถานที่ ส่วนตัวปิ่นชอบผลงานของทีมตกแต่ง Villa de Bua in-house อยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือก Villa de Bua เป็นสถานที่จัดงานด้วยค่ะ งานตกแต่งที่นี่ใช้ดอกไม้จริงเป็นส่วนใหญ่ วันงานตกแต่งสถานที่ออกมาได้สวยถูกใจ ค่อนข้างตรงกับที่คิดไว้ค่ะ

ใส่ใจลงไปในทุกขั้นตอน เพื่อความประทับใจของแขกผู้มาร่วมงาน

 อย่างการ์ดแต่งงาน ปิ่นก็เลือกที่จะออกแบบเอง ออกแบบไปประมาณ 4-5 แบบได้กว่าจะลงตัว เพิ่มตัวกระต่ายคู่ลงไปด้วย ที่เลือกกระต่ายเพราะเป็นปีเกิดของคุณพ่อค่ะ ซึ่งปิ่นเห็นว่าน่ารักดีเข้ากับงานเป็นกระต่ายคู่ 2 ตัว เลยนำมาใช้ในงานนี้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ถ้าเรามีเวลาเตรียมงานเยอะพอสมควร บางอย่างเราสามารถทำเองได้ อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมามีเวลาว่าง ปิ่นก็เลือกที่จะทำของชำร่วยเอง โดยสั่งขวดน้ำมาแล้วนำมาตกแต่งเพิ่มเติม เป็นขวดน้ำที่ใส่ตุ๊กตากระต่ายลงไปข้างใน และตกแต่งเพิ่มด้วยโลโก้งานที่ปิ่นออกแบบเองค่ะ ปิ่นมองว่าของชำร่วยไม่ใช่แค่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่จะดีกว่าไหมถ้าผู้รับนำไปใช้จริงได้ด้วยค่ะ อย่างกระบอกน้ำที่เป็นของชำร่วย ถ้าแขกได้รับไปแล้ว เวลาใช้ก็จะได้คิดถึงเราด้วย เป็นของ Handmade ที่เราตั้งใจมอบให้ด้วยใจค่ะ

แล้วลำดับในงานของคุณปิ่นมีอะไรบ้างคะ

เรื่องลำดับพิธีต้องขอบคุณคุณยุพิน ทีมงานของทาง วิลลา เดอ บัว และทีมงานของคุณนิค (Niramit) ทีมนายพิธีที่เป็นพาร์ทเนอร์ของทาง วิลลา เดอ บัว มากๆเลยค่ะ ด้วยทางเจ้าบ่าวเป็นคนจีนและทางเจ้าสาวเป็นครอบครัวคนไทย เรียกได้ว่าต้องเปลี่ยนชุด 3 ชุดเลยค่ะวันงาน แต่ทางคุณนิคก็ช่วยคิดและวางแผนลำดับพิธีในแต่ละช่วงได้อย่างสมูทและดีมากเลยค่ะ ก็จะมีการลำดับพิธีที่ผสมไทยกับจีน เริ่มตั้งแต่ตั้งขบวนแห่ขันหมาก พิธีสู่ขอสวมแหวน จากนั้นเราก็เปลี่ยนชุดจีน มาเข้าพิธียกน้ำชา หลังจากนั้นก็จัดเลี้ยงฉลองต่อกันค่ะ ซึ่งงานก็ค่อนข้างสมูทตามที่คาดหวังไว้ค่ะ

จัดเลี้ยงแสนประทับใจ กับ Individual Serve ในยุค New Normal

พอถึงพาร์ทจัดเลี้ยง ปิ่นเลือกอาหารของทาง IDO Catering ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของทางสถานที่เช่นกัน คุณเก่งและคุณลูกตาล จากทาง IDO ให้คำแนะนำเยอะมากค่ะ เนื่องด้วยสถานการณ์แบบ NEW-Normal เราเลยเลือกจัดเลี้ยงแบบ Individual Serve แบบเซทอาหารไทย ปิ่นก็จะมีเมนูคร่าวๆให้ทางแขกเลือกก่อนวันงาน สอบถามข้อมูลของแต่ละท่าน เพื่อให้เราสามารถประเมินได้เบื้องต้นสำหรับจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานค่ะ อย่างบางท่านไม่ทานเนื้อสัตว์ Vegan หรือว่าบางครอบครัวมีเด็กเล็กมาด้วย ปิ่นก็จะเลือกอาหารให้เหมาะสมกับแขกแต่ละท่านค่ะ อย่างบนโต๊ะของเด็กๆปิ่นก็มีแอบวางของเล่นและถุงของขวัญไว้ให้ด้วย

พอเริ่มแจกการ์ดไปแล้ว เราก็ต้องมาคอนเฟิร์มกับแขกล่วงหน้าก่อน 1-2 เดือน เพื่อสรุปจำนวนที่แน่นอนของแขกที่จะมาร่วมงาน จะทำให้จัดที่นั่งและกรุ้ปแขกแต่ละกลุ่มได้ง่ายขึ้น ซึ่งคุณเก่งก็แนะนำให้ทำป้ายแผนผังที่นั่งตั้งไว้หน้างาน รวมถึงทำรูปอธิบายส่งผ่านทางไลน์ล่วงหน้าให้แขกไว้ก่อนด้วย จัดเลี้ยงแบบนี้อาจจะดูยุ่งยากพอสมควร ที่จะต้องมานั่งคอนเฟิร์มแขกทีละคน ซึ่งปิ่นกับเจ้าบ่าวค่อนข้างให้ความสำคัญกับแขก เลยอยากทำข้อมูลให้ละเอียดที่สุด ส่วนนี้เลยเหนื่อยหน่อยค่ะ แต่เพื่อป้องกันความวุ่นวายในวันงานวิธีนี้ช่วยได้มากค่ะ

การเสิร์ฟคอร์สอาหารไทยในงานแต่งแบบนี้ก็ค่อนข้างเป็นรูปแบบใหม่นิดนึงสำหรับคนไทย แต่ปิ่นว่าเป็นสไตล์ใหม่ที่อีกหน่อยน่าจะเป็นที่นิยมค่ะเนื่องด้วยสถานการณ์โควิดปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่บางท่านก็อาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีการคอนเฟิร์มล่วงหน้า หรืออาจจะมีกังวลกับรูปแบบของงานอยู่บ้าง แต่พอถึงวันจริงการที่เราคอนเฟิร์มล่วงหน้านั้นทำให้ทุกอย่างสะดวกมากเลยค่ะ เพื่อนปิ่นพาแขกไปนั่งตามแผนผัง ไม่วุ่นวายเลย ซึ่งหลังจากนั้นแขกหลายๆท่านก็เข้าใจได้ค่ะ ว่าทำไมถึงต้องคอนเฟิร์มก่อน แขกส่วนใหญ่ก็ชอบอาหารที่มาเสิร์ฟ เท่าที่ปิ่นฟังมาคือหลายๆคนคิดว่าคอร์สอาหารแบบนี้อาจจะไม่อิ่ม แต่พอเป็นคอร์สยาว หน้าตาอาหารสวยงามและปริมาณเหมาะสม แขกค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งในงานนี้ คือการเชิญนักดนตรีที่เป็นผู้พิการทางสายตา มาบรรเลงขับกล่อมในงาน อีกหนึ่งความใส่ใจของเจ้าสาว ที่อยากมอบโอกาสดีๆให้กับนักดนตรีที่มากความสามารถ

ช่วง 4-5 เดือนก่อนวันงาน ปิ่นเริ่มมองหานักดนตรีที่จะมาเล่นในงานค่ะ พอดีเวลาไปทำงาน ปิ่นจะเดินผ่านนักดนตรี 2ท่าน คือพี่บอลที่เป่าแซกโซโฟน และน้องเจมส์ที่จะมาร้องเพลงเล่นกีตาร์ อยู่แถวสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง และช่องนนทรีเกือบทุกวัน ซึ่งเสียงแซคมันสะกิดหูเราขึ้นมา เลยคิดอยากให้เค้ามาเล่นในงาน ตอนแรกก็กังวลว่าถ้าให้เค้ามาเล่นในงานแต่งเราจะโอเคไหม แต่หลังจากนั้นปิ่นก็คอยสังเกตและฟังเสียงดนตรีนั้นมาตลอด แล้วก็ลองมาปรึกษาเจ้าบ่าว ถ่ายคลิปส่งให้ดู ทางเจ้าบ่าวก็โอเคกับความคิดเรา ก่อนหน้าวันงานเราก็นัดให้มาลองเทส ให้มาดูสถานที่ เพื่อให้แน่ใจว่าวันงานจะมีคนพามาได้ มีเช่าชุดให้ใส่ในวันงานด้วย ทั้ง 2 คนมีฝีมือจริงๆค่ะ ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่มีประสบการณ์เล่นงานเลี้ยงมาก่อน แต่เราก็ไม่ได้ต้องการนักดนตรีที่สมบูรณ์แบบที่สุด เรามองถึงโอกาสในการจ้างงานต่อด้วย หากมีแขกในงานของเราชื่นชอบ จ้างไปงานอื่นๆต่อ ก็เป็นโอกาสดีของทั้งสองคน

นอกจากเรื่องนี้กิมมิคในงานของปิ่น จริงๆปิ่นว่าเป็นความใส่ใจทุกอย่างมากกว่าค่ะ เพราะแต่ละขั้นตอนกว่าจะมาเป็นหนึ่งงาน ต้องใช้เวลาเตรียมงานค่อนข้างเยอะ ค่อยๆมีความสุขกับแต่ละขั้นตอนไปดีกว่า อย่างทางเจ้าบ่าวก็ช่วยเตรียมของ ช่วยกันวางแผน ของชำร่วยก็มีครอบครัวมาช่วยทำ อย่างขนมที่เสิร์ฟเราก็ทำกันเอง ถึงจะเป็นไอเดียของเราก็จริง แต่เราคงทำเองไม่ได้ทั้งหมด งานแต่งไม่ใช่งานแค่งานของคนสองคน แต่เป็นงานของทุกคนในครอบครัวจริงๆค่ะ

สุดท้ายนี้อยากให้คุณปิ่นฝากคำแนะนำสำหรับคู่ที่กำลังวางแผนแต่งงานในช่วงนี้ค่ะ

สิ่งสำคัญคือการติดต่อสื่อสารกับคน ทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมสถานที่ ทีมนายพิธี ทีมแคทเทอริ่ง ช่างถ่ายภาพ ช่างแต่งหน้าทำผม คือจริงๆอยากขอบคุณทุกฝ่ายเลยค่ะ แม้ว่าต่างคนต่างมาทำงานในส่วนของตัวเอง แต่พอมารวมกันแล้วทำให้งานออกมาดี อยากให้คู่ที่จะแต่งงานค่อยๆเตรียมงานในแต่ละจุด ให้เรามีความสุขกับวันนั้นที่สุดเพราะเป็นวันสำคัญของเรา

 

Photographer: Bridiful, The PROPOSE

Catering: I Do Catering

Decoration: Villa de Bua

Run queue: Nik Niramit

Bridal Gown & Groom Suit: Jirayu Couture

MUA: Dasneng makeup

Hair Stylist:  Gee Jiwat

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Fill out this field
Fill out this field
Please enter a valid email address.