ห้องกาแฟเวลา Wela Coffee Room สาขาใหม่ล่าสุดที่ วิลลา เดอ บัว แหล่งเช็คอินใหม่ย่านเทพรักษ์ วัชรพล

จาก Passion สู่ Partner กว่า 5 ปีที่ ที่วิลลา เดอ บัว และ Wela Coffee Roaster ได้เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันมา การันตีคุณภาพจากแขกที่มาชิมและจัดเลี้ยงที่ วิลลา เดอ บัว  จนวันนี้ ได้มาเปิด Wela Coffee Room หรือห้องกาแฟเวลาสาขาใหม่ในพื้นที่ของ วิลลา เดอ บัว เป็นสาขาที่เชื่อว่าต้องถูกใจสาย specialty coffee และสาย Instragramer อย่างแน่นอน เพราะนอกจากความอร่อย วิธีการชงที่พิธีพิถัน ยังออกแบบร้านให้มีความมินิมอล สไตล์คาเฟ่ ถ่ายรูปสวย เป็นแหล่งเช็คอินใหม่บนเทพรักษ์ ย่านวัชรพล

หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าที่ วิลลา เดอ บัว เรามีคาเฟ่เล็กๆ ที่เป็น Specialty Coffee อยู่ในพื้นที่ด้านหน้าด้วย วันนี้เลยเป็นโอกาสดีได้มาพูดคุยกับ คุณ ตั้ว เจ้าของโรงคั่ว Wela Coffee Roaster และร้านกาแฟ Wela Coffee Room ถึงที่มาที่ไปร้านและความพิเศษของวิธีการชงกาแฟที่มีเวลาเป็นส่วนสำคัญ

คุณตั้วเล่าให้เราฟังว่า “จุดเริ่มต้นคือมีโอกาสได้เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษช่วงหนึ่ง เวลาว่างเลยได้ลองเรียนรู้อยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร ทำขนม จนมาถึงการเรียนศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับกาแฟ เช่น การคั่ว การชง การชิม ซึ่งมีความชื่นชอบการดื่มกาแฟอยู่ทุนเดิมแล้ว เลยมองว่าการคั่วกาแฟเป็นศาสตร์ที่น่าค้นหา กว่าจะได้ออกมาเป็นกาแฟหนึ่งแก้ว ต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง เพื่อให้ได้กาแฟที่รสชาติอร่อยถูกใจ

พอได้เรียนรู้และศึกษาการคั่วกาแฟอย่างลึกซึ้ง ก็อยากแบ่งปันเมล็ดกาแฟคั่วที่มีความพิถีพิถันให้กับกลุ่มคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟได้ลองชิม จากการขายเมล็ดกาแฟเฉพาะกลุ่ม จนต่อยอดสู่การเปิดหน้าร้านในปัจจุบัน”

แล้วคุณตั้วเริ่มเปิดร้านกาแฟได้อย่างไรคะ

หลายปีก่อนเราทำแต่โรงคั่วขายเมล็ดกาแฟส่ง และปลีกผ่านทาง online อย่างเดียวโดยไม่มีหน้าร้าน แต่ Online platform ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เลยอยากมีหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้น ได้ลองชิมเมล็ดกาแฟที่เราคั่ว ได้เทสต์เมล็ดกาแฟ เป็น community ไว้มาศึกษาหรือแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมไปถึงไว้นัดเจอและให้คำปรึกษากับลูกค้าที่สนใจอยากนำเมล็ดกาแฟของเราไปใช้ในร้านของเค้าได้ด้วย จึงได้เริ่มเปิดห้องกาแฟเวลา สาขาแรก  และสาขาใหม่ล่าสุดที่ วิลลา เดอ บัว ขึ้นมา

Wela ที่มาจากคำไทย ‘เวลา’ เป็นอีกหนึ่งคำที่มีความหมาย

ผมเชื่อว่าเวลาเป็นส่วนสำคัญในทุกกระบวนที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ต้องใช้เวลาให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การแปรรูป การคั่ว การชง และแม้แต่การดื่ม ที่เวลามีส่วนสำคัญต่อรสชาติของกาแฟทั้งสิ้น จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อร้านว่า ‘Wela Coffee’ ขึ้นมา

โดยไฮไลท์ของ Wela คือความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เรื่องรสชาติกาแฟ 60% มาจากวัตถุดิบ ผมเน้นเรื่องคุณภาพ ตั้งแต่ลงพื้นที่ไปคัดเลือกเมล็ดกาแฟ ต้องรู้ว่าผู้ผลิตเค้าเป็นอย่างไร แปรรูปแบบไหน เราต้องไปศึกษาและคัดเลือกมาเอง

ผมมองว่าคั่วให้ดีและชงให้ดีใครๆก็ทำได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือความใส่ใจและความสม่ำเสมอที่จะทำให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรา

เราคุมปัจจัยตั้งแต่เริ่มคั่วจนถึงกระบวนการสุดท้าย เช่น เราคัดเมล็ดกาแฟที่ไม่ดีออกทั้งก่อนและหลังคั่วด้วยมือ จากนั้นนำมล็ดมาใส่เครื่องแยกหิน ตลอดจนตรวจสอบคุณภาพและความคงที่ด้วยการวัดค่าสีของเมล็ดกาแฟ การชิม และ ชั่งน้ำหนักเมล็ดหลังการคั่ว ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เราพิถีพิถัน ตรวจสอบก่อนที่จะแพคส่งให้ลูกค้าทุกครั้ง

ในส่วนของหน้าร้าน เราเน้นเรื่องความใส่ใจและความสม่ำเสมอ เช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตวงกาแฟ การสกัดกาแฟ และบาริสต้าของเราจะมีการเทสต์ และชิมอยู่ตลอด เพื่อให้คุณภาพคงที่ ส่วนเมล็ดกาแฟเราก็เน้นความหลากหลาย อยากให้ลูกค้าของเราได้ลองเมล็ดกาแฟจากแหล่งต่างๆและมีความสุขไปกับการดื่มกาแฟ

เมนูที่เป็นไฮไลท์ มีเมนูไหนที่แนะนำเป็นพิเศษ

สายกาแฟ แนะนำ cold brew ซึ่งเราใช้เมล็ดจากเอธิโอเปียล้วนร้อยเปอร์เซนต์ที่เราคั่วเอง ซึ่งให้รสและกลิ่นโทนผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ถ้าสายชอบความหวาน เมนูยอดนิยมคือ Palm Sugar Latte โดยวัตถุดิบน้ำตาลโตนดเราก็ไปดีลกับคนที่ผลิตน้ำตาล จากเพชรบุรี ซึ่งถ้าเป็นสายขนมก็จะรู้ว่าน้ำตาลโตนดแท้ๆนั้นหายาก แต่กลิ่นหอมมาก ผมจึงเลือกเอาตัวนี้มาใส่กาแฟ ซึ่งก็เป็นเมนูขายดีอีกเมนูในร้าน หรือในแต่ละช่วงก็จะมีเมนูพิเศษให้ได้ลอง อย่างช่วงนี้หน้าร้อน ก็มีเมนู Cococano กาแฟมะพร้าวน้ำหอมออแกนิคจากอัมพวา มาเสิร์ฟที่ร้านของเรา

ส่วนขนมเราก็มีให้เลือกหลากหลาย โดยเราเลือกพาร์ทเนอร์ขนมที่มีความเชี่ยวชาญในด้านขนมนั้นๆมาทำให้เรา โดยขนมที่เราเลือกมานั้นจะไม่ผสมสารกันบูด ไม่มี Trans Fat หรือเนยขาว เมนูขนมที่มีในร้านเช่น Cream Cheese Garlic Bread, Muffin, Croissant รวมไปถึงขนมสายสุขภาพอย่าง กล้วยหนึบ ที่เรามีพาร์ทเนอร์เป็นเกษตรกรปลูกกล้วยออแกนิคนำมาอบด้วยหลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ผสมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งใดๆ ซึ่งเป็นขนมที่ขายดี อยากให้มาลอง ทานคู่กับเครื่องดื่มคือเข้าคู่กันอย่างลงตัว

อย่างที่เราเกริ่นกันไปก่อนหน้านี้ว่า ทาง Wela เป็น Selected Partner กับ ทาง วิลลา เดอ บัว มีเมนูไหนที่แนะนำ สำหรับงานจัดเลี้ยงบ้างไหมคะ

เมนูสำหรับจัดเลี้ยง เราจะใช้เมล็ดพิเศษสำหรับออกงานคือ เมล็ดจากดอยผาตั้ง นำมาคั่วระดับ Meduim Dark Roast ซึ่งเรามองว่าเป็นเมล็ดที่สามารถตอบโจทย์ ทั้ง ผู้สูงอายุและวัยกลางคน เพราะมีรสที่ไม่ขม หรือเปรี้ยวมากจนเกินไป ให้กลิ่นโทนช็อกโกแลต นำมาชงได้ทุกเมนู เหมาะสำหรับจัดงานลักษณะที่มีแขกทุกกลุ่มอายุ

หรือถ้าเมนูเป็น Non-coffee แนะนำเป็น Dark chocolate ที่เราเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมอย่าง Valrhona Cocoa  ให้รสชาติที่กลมกล่อม และได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วนเมนูอื่นๆอย่าง ชามะนาว เก็กฮวย ก็สามารถเลือกเพิ่มเติมได้เช่นกัน ที่ Wela จะมีเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย ให้เลือกนำไปจัดเลี้ยงได้ โดยจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 100 แก้ว ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้รับจัดงานเลี้ยงที่ไหน นอกจากที่ วิลลา เดอ บัว เพียงแห่งเดียวครับ ซึ่งถ้าอยากลองมาเทสต์กาแฟ เครื่องดื่ม แวะมาที่ Wela Coffee Room @Villa de Bua ได้เลยครับ

อ่านมาจนถึงช่วงสุดท้ายนี้ เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านบทความ ต้องรู้สึกถึงความพิถีพิถันและความใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบและทุกขั้นตอนของผลิตกาแฟอย่างมีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นสาย Coffeelism อย่างแน่นอน กว่า 5 ปีที่ Wela Coffee Roaster เป็นหนึ่งใน Selected Partner ของ วิลลา เดอ บัว ที่เราคัดสรรมาพาร์ทเนอร์มืออาชีพในการจัดงานให้คู่บ่าว-สาว เราได้รับคำชม และ Feedback เป็นอย่างดีจากแขกที่มาจัดงาน เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่การันตีถึงคุณภาพของ Wela Coffee ได้อย่างดี หากใครที่ยังไม่ได้ลองชิมกาแฟของ Wela แนะนำเลยว่าห้ามพลาด มาที่ร้านถ่ายรูปสวยได้ทุกมุม ไม่ว่าจะมานั่งจิบกาแฟชิลๆ หรือ Grab & Go ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน

 

Wela Coffee Room @ Villa De Bua

เปิด จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 – 16.00 น.
เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 17.00 น.
เบอร์โทร: 093 – 691 4514

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Fill out this field
Fill out this field
Please enter a valid email address.