Craft wedding ในสไตล์ไม่เหมือนใคร จากความครีเอทของเจ้าบ่าว เพื่อเจ้าสาวที่รัก!!

งานแต่งทีไม่เหมือนใคร เจาะลึกในทุกดีเทล ด้วยฝีมือการออกแบบและความใส่ใจในทุกขั้นตอนการจัดงานของเจ้าบ่าวสุดคูล ที่ดึงเอาความสามารถของความเป็นสถาปนิกและมัณฑนากรของตัวเอง มาแต่งเติมให้งานมีสีสัน หลุดจากกรอบความคิดงานแต่งแบบเดิมๆ งานนี้เจ้าบ่าวเป็นผู้ออกแบบและลงมือทำด้วยตัวเองในทุกดีเทล ตั้งแต่พานขันมากไปจนถึงห้องพิธีการห้องจัดเลี้ยงและ Backdrop และที่สำคัญคือทุกงานดีไซน์ล้วนมีความหมายที่แฝงนัยยะถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของคนทั้งคู่ โดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวเป็นคำพูดเลยทีเดียวค่ะ

งานนี้สาวๆหลายคนคงอิจฉาตาร้อนกันน่าดูเลยค่ะ เพราะว่าเจ้าบ่าวบอกกับเราเองว่าที่ตั้งใจและใช้ใจทำในทุกอย่าง เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียวที่ผมรัก… เกริ่นมาขนาดนี้ วิลลา เดอ บัว ไม่รอช้า ชวนเจ้าบ่าวมานั่งพูดคุยถึงคอนเซ็ปต์งาน และมุมมองการออกแบบงานแต่งงาน ที่ วิลลา เดอ บัว เชื่อได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่แสนประทับใจของแขกและผู้ที่มาร่วมงานกันแบบสุดๆเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณนัท ขอเริ่มต้นจากการเลือกสถานที่ก่อนเลยค่ะ ทำไมถึงเลือกที่ วิลลา เดอ บัว เป็นสถานที่จัดงานคะ?

เพราะเป็นสไตล์ที่ผมชอบส่วนตัวครับ ผมชอบสถานที่ที่เป็นแนวสไตล์วังเก่าอยู่แล้ว ต้องยอมรับว่า เราก็ไปดูมาหลายที่เหมือนกัน แต่ว่าอาจจะมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่ลงตัว และที่สำคัญเรากลัวว่าถ้าจัดงานที่นั่นจริงๆ จะไปทำอะไรเสียหายขึ้นมามันก็จะไม่สมควร แต่โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบงานเก่าๆ ชอบแบบวังเก่า เลยอยากได้สถานที่จัดงานสไตล์นี้

ซึ่งก็มาลงตัวที่ วิลล่า เดอ บัว สถานที่เป็นสไตล์โคโลเนียล เป็นสไตล์ที่ผมชอบ มีความเป็นสยาม มีกลิ่นอายความเป็นไทยประยุกต์ พื้นที่เป็นส่วนตัว และมีที่จอดรถเพียงพอกับแขกของเรา ยิ่งพอได้มาชมสถานที่ ถูกใจห้องบูติคมาก ตอบโจทย์กับแนวความชอบส่วนตัว เป็นห้องที่มีสีสัน มีความจีนนิดๆเป็นตัวเรามาก

ด้วยความที่คุณนัทมีความถนัดด้านการออกแบบ เป็นทั้งสถาปนิกและมัณฑนากร รวมถึงเป็นนักออกแบบดอกไม้ที่ผ่านการทำงานในสเกลใหญ่ๆมาแล้วมากมาย  วิลล่า เดอ บัว เชื่อว่าการออกแบบจัดงานแต่งงานของตัวเองนั้น ต้องเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากๆ

ดีไซเนอร์แบบคุณนัทมีการวางแผนงานแต่งไว้อย่างไรบ้างคะ ถึงทำให้งานออกมาที่สีสันและมีดีเทลไม่เหมือนใครแบบนี้

เรามีภาพงานแต่งในฝันตั้งแต่เด็กนะ แต่ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามช่วงอายุ แต่คือโดยส่วนตัวเราไม่ชอบงานแต่งงานที่เป็นสีขาว เรียบๆอยู่แล้ว ด้วยงานที่เราทำ สไตล์ที่เราชอบ ชอบสีสัน เราชอบงานสไตล์ More is More จัดเต็มไปเลย เล่นกับสีเป็นอะไรที่ผมชอบมาก หลังจากที่เราเลือกสถานที่เป็น วิลลา เดอ บัวแล้ว ผมจึงมาวางแผนว่าเราควรจะเติมอะไรลงไปในงานของเราดี เริ่มจากไปดูสถานที่ ไปวัดพื้นที่อย่างละเอียด เราจะได้รู้สเกลของพื้นที่ใช้สอยหรืออุปกรณ์ตกแต่งเสริมที่ต้องการใช้

เราเอา วิลลา เดอ บัว เป็นโจทย์ตั้งไว้ก่อน แล้วสเก็ตช์ภาพออกมาเลยแนวความคิดจะเป็นแบบไหน อะไรที่เข้ากับสถานที่ สถานที่มีอะไรที่สามารถใช้ได้บ้าง อย่างโต๊ะตัวนี้จะใช้กับอะไร ของชิ้นนี้จะเอาไปวางที่ไหน มีอะไรที่ต้องใช้หรือสิ่งที่มีประยุกต์เข้ากันได้ไหม ใช้แผ่นเทียบสีเลือกเฉดสีไปเลยว่าใช้สีไหนถึงจะสวย สีรองสีหลักจะใช้สีอะไร สีคู่ขนานเป็นสีอะไร สถานที่เป็นสีเขียว-ชมพูยิ่งง่ายเลย คู่สีเข้ากันดูสุภาพสำหรับผู้ชายและอ่อนหวานสำหรับผู้หญิง

ทุกอย่างผ่านการคิดและวางแผนมา 1 ปีเต็ม เราตั้งใจทำเองหมด ซึ่งก็มีปรึกษากับทางทีม วิลล่า เดอ บัว อยากจัดแบบนี้เป็นไปได้ไหม และโชคดีที่ทางทีมเข้าใจและซัพพอร์ทเราในการออกแบบงานแต่งของเราเต็มที่ ก็ต้องขอบคุณด้วยครับ

ที่บอกว่าทุกอย่างมีความหมาย ช่วยเล่าเพิ่มเติมตรงนี้ให้เราฟังหน่อยได้ไหมคะ ว่ามีอะไรบ้าง

ผมออกแบบงานแต่งครั้งนี้โดยยึดความเป็นจริงในชีวิตที่เราทั้งคู่ผ่านมาครับ ตั้งใจทำทุกอย่างเองทั้งหมด เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีความหมาย คือมีความเป็นตัวตนของผมและเจ้าสาว อย่างเช่นโลโก้ ของงาน  โดยส่วนตัวของเราทั้งคู่ ชอบดอกไม้ คุ้นเคยอยู่กับงานดอกไม้ เลยนำเอาดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ ประจำในแต่ละเมืองที่มีเรื่องราวของผมและเจ้าสาวมาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบ อย่างราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำประเทศไทย, ทองกวาว เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ที่ผมเกิด, ผมเติบโตและศึกษาที่ประเทศจีน ดอกโบตั๋น คือดอกไม้ประจำประเทศจีน และกุหลาบทิวดอร์ คือดอกไม้ประจำประเทศอังกฤษที่เจ้าสาวเคยศึกษาอยู่ที่นั่น ดังนั้นศิลปกรรมของสี่สัญชาติจึงถูกนำมาใช้ ผมนิยามสัตว์ขึ้นมาใหม่เป็นลูกครึ่งระหว่างนกยูงกับกระต่าย และ นกยูงกับมังกร ซึ่งเป็นการนำสัตว์ประจำปีเกิดมารวมกับนกยูงซึ่งชาวล้านนาเชื่อว่า นกยูง เป็นสัญลักษณ์มงคลของการสมรส ทั้งนี้ผมยังนำเอาตราสัญลักษณ์มาทอลงบนพรมและนำมาใช้ในงานพิธีด้วยซึ่งเมื่อจบงานผมจะนำไปไว้ในเรือนหอเพื่อเป็นความทรงจำของเราสองคนทดแทนการใช้ดอกไม้จำนวนมากมากและเป็นการตกแต่งบ้านไปในคราวเดียว

ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผมหลงใหลงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมและงานประณีตศิลป์ไทย ในงานพิธีไทยผมออกแบบเป็นเครื่องแขวนเถาว์ดอกโบตั๋นที่ออกแบบเอง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสาวัดโสมนัสราชวรวิหาร ผมใช้วัสดุเป็นดินญี่ปุ่นและดอกบานไม้รู้โรย ปั้นและเพ้นท์เองทุกชิ้น ในงานผมยังใช้งานเครื่องสดไทยทำเป็นกระแตไต่ไม้ และใช้ไม้ดัดไทยของคุณพ่อเจ้าสาวผู้หลงไหลงานไม้ดัดและเต็มใจมอบให้ในวาระสำคัญของชีวิตเราทั้งสอง

พานขันหมากออกแบบและทำขึ้นมาเองทั้งหมด เป็นพานแบบประยุกต์ ได้แรงบันดาลใจจากงานคลุมปักของไทย เกลียวดอกโบตั๋น โทนสีชมพูและเขียว เพิ่มดีเทลด้วยผึ้งมงคล 28 ตัว จากดอกบานไม่รู้โรย เกาะอยู่ที่พานเป็นกิมมิคเล็กๆด้วย ซึ่งตัวผึ้งนั้นได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงจีน เถียนมีมี่ ซึ่งเจ้าสาวขอให้ผมสอนร้องเพลงจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งคำว่า เถียนมีมี่ ภาษาจีนแปลว่า หวานปานน้ำผึ้ง ทุกอย่างจึงมีนัยยะที่สื่อถึงกันหมด

นอกจากนี้ในพิธีฉลองมงคลสมรส บนเวที ผมใช้งานเขียนผ้าใบโทนสี Blue & white เป็นภาพที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต มีพื้นหลังเป็นเมือง 4 เมืองที่เราเคยอยู่ จากล้านนาเชียงใหม่ถึงสยาม จากเอเชียถึงยุโรป โดยในภาพ วาดเป็นสะพานแห่งรักเป็นตัวเชื่อม โดยใช้เรือสื่อความหมายของการเดินทาง ที่แม้ว่าเราจะอยู่ต่างที่ก็ยังเชื่อมถึงกันได้ ซึ่งพอเราทำเองทั้งหมด เราก็ต้องคิดไปจนถึงการติดตั้งด้วย ว่าจะทำอย่างไรให้ติดตั้งได้เร็วที่สุด ลดทอนความยุ่งยากหน้างานในวันนั้นให้มากที่สุด วันงานเราจะได้โดยไม่ต้องมากังวล เพราะวันนั้นควรจะเป็นวันที่เราควรจะมีความสุขกับบรรยากาศในงานของเรา

เป็นงานแต่งที่ค่อนข้าง Contrast เรื่องสี การตกแต่ง ซึ่งต่างจากรูปแบบงานแต่งงานทั่วไป แบบนี้เจ้าสาวว่าอย่างไรบ้างคะ

ช่วงงานแต่งงานเป็นช่วงที่ทะเลาะกันเยอะที่สุด แต่โชคดีที่เจ้าสาวไว้ใจ งานจึงผ่านพ้นไปด้วยดี

ผมออกแบบงานแต่งงานโดยพยายามลบภาพงานแต่งงานที่เคยมีมาจึงเป็นเรื่องปกติที่คนที่ไม่ได้หลงไหลงานออกแบบจะไม่เข้าใจในผลลัพธ์ที่มันจะออกมาเค้าก็จะมีภาพงานแต่งงานในหัวจากสิ่งที่เค้าพบเจอมา ผมก็พยายามอธิบายในภาพที่จะเกิดขึ้น ซึ่งผมก็มองรูปแบบงานจากความเป็นตัวตนของเค้า ก็ต้องขอบคุณเค้าที่เค้าไว้ใจในตัวผม ซึ่งผมเห็นเค้ามีความสุขในวันงานนั่นก็เพียงพอสำหรับผม

ในงานผมนำเอา ฮาร์ป ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีคลาสสิคจากฝั้งยุโรป มาบรรเลงเพลง แทนที่จะเป็นขิมแบบไทยๆ เพราะอยากทำให้มันดูคลาสสิค ผสมคลุกเคล้าให้งานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ไม่เลี่ยนจนเกินไป ซึ่งสุดท้ายทั้งเจ้าสาว ครอบครัว ญาติ แขกทุกคนส่วนใหญ่แฮปปี้มาก บอกเราว่าไม่เคยเจองานแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างแปลกใหม่แต่ลงตัวมาก

แต่ก็ต้องขอแอบเล่าสักนิด กว่าจะมาถึงวันงานได้ ก็มีอุปสรรคพอสมควรครับ เพราะก่อนวันงานจริง 1 เดือน บ้านที่ผมพักอาศัยมีช่างที่มาซ่อมท่อน้ำ ทำน้ำรั่วเข้ามาจากฝ้าเพดานบ้าน ทำให้งานปั้นในส่วนที่เตรียมไว้สำหรับพิธีการเสียหายเกือบทั้งหมด ตอนนั้นเครียดเลยครับ ซึ่งเจ้าสาวเค้าก็คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด แต่เพราะเราทำมาเองตั้งแต่ต้น ทำให้ทำครั้งใหม่ไปเร็วกว่าเดิมเยอะ เลยออกมาตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ครับ

แล้วเรื่องอาหารจัดเลี้ยง ทำไมถึงเลือกเสิร์ฟอาหารแบบ Individual Serve คะ

สำหรับช่วงงานเลี้ยง เราเลือกเสิร์ฟเซทอาหารและจัดโต๊ะแบบ Long Table ได้มู้ดโทนที่หรูๆนิดๆ และตอบโจทย์กับสถาณการณ์ปัจจุบันในเรื่อง New Normal ซึ่งก็ได้คุณเก่ง IDO Catering ที่ทาง วิลลา เดอ บัว แนะนำ มาช่วยเรื่องอาหารจัดเลี้ยง คุณเก่งให้คำปรึกษาดีมากครับ เพราะเรามีการเลือกเมนูกันก่อน เลือกสี และประเภทอาหารเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานของเรามากที่สุด

อยากให้ฝากคำแนะนำสำหรับกำลังวางแผนจัดงานเร็วๆนี้ค่ะ

 งานที่ดี ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือย เลือกที่เหมาะสมและเป็นตัวเรา งานก็จะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น

 สำหรับผม งานของเราเอง ใส่ตัวตนของเราเป็นแกนหลัก ใส่สิ่งที่เป็นตัวเองลงไป ไม่จำเป็นต้องใช้ของฟุ่มเฟือย วางแผนทุกอย่างให้ดูเหมาะสม อบอุ่น เป็นเราที่สุด งานก็จะออกมาดีเอง ยิ่งถ้าการออกแบบวางแผนที่ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว บางครั้งความหรูหราถูกทดแทนด้วยดีเทลต่างๆก็ออกมาสวยงามได้เช่นกัน ของบางอย่างที่เรานำมาใช้ในงานเราสามารถนำไปต่อยอดและใช้ประโยชน์ได้อีก

สำหรับผม พอใจที่นี่มาก ใครที่ชอบความไพรเวท รักงานโคโรเนียล ถ้าชอบแนวนี้ ที่นี่ก็ลงตัวครับ อีกเรื่องคือความสะอาด ที่นี่ดูแลสถานที่ได้ดี มีการรักษาความสะอาดเป็นอย่างดีครับ ตอบรับมาตรการณ์สถาณการณ์การระบาดของปัจจุบันได้ดีและมีมาตรฐานความปลอดภัย

Photographer : U inspire me

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Fill out this field
Fill out this field
Please enter a valid email address.